Single Coffee Origins from Around the World

ทุกสิ่งที่ท่านควรรู้เกี่ยวกับกาแฟ และแหล่งที่มาต่าง ๆ กันทั่วทั้งโลก

สำหรับคนบางคน กาแฟเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในวิถีชีวิตประจำวัน ผู้บริโภคปัจจุบันมีการรับรู้เรื่องราวของกาแฟที่ลงลึกจากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่ง เมล็ดกาแฟมีความแตกต่างกันเป็นอันมาก จากแหล่งที่ปลูกไม่เหมือนกัน กระจายไปทั่วโลก แถบร้อน เมล็ดแต่ละแหล่งนำพาคุณลักษณะที่เด่น ด้อย ต่าง ๆ กันไป ทุก ๆ ชุมชนที่ให้ความใส่ใจดูแลการปลูก เพื่อให้ผลดี มีคุณภาพ ตามความต้องการของตลาด ที่นับวันมีพัฒนาการที่สลับซับซ้อนขึ้น ทำให้ความนิยมพุ่งขึ้นเกือบทุกประเทศ จนสรุปได้เป็นคลื่นลูกที่ Specialty Coffee Wave

Origin Coffee Spotlight : AFRICA

ด้วยทวีปแอฟริกา ประเทศเอธิโอเปียเป็นแหล่งกำเนิดของกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า มนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์พบว่า แพะเมื่อกินเมล็ดกาแฟสด จะกระชุ่มกระชวย ไม่หลับนอน เขาจึงลองทำดู ก็ได้ผลเช่นกัน เวลามีไฟป่าเผาเมล็ดกาแฟ ทำให้กลิ่นหอมยิ่งขึ้น จึงเป็นการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น กระจายไปประเทศเยเมน ซึ่งเป็นเมื่องท่าค้าขายของชาวอาหรับ ประเทศฝั่งยุโรป รับไปปลูกขยายในประเทศอาณานิคม จนรู้จักกันทั่วโลก

ประเทศหลักในแอฟริกา ได้แก่ Kenya, Ethiopia, Burundi, Malawi, Rwanda, Tanzania และ Zambia เราจะเจาะลึกให้รู้ถึงคุณลักษณะของเมล็ดกาแฟในแต่ละประเทศ

Kenya : เคนยา

ประเทศเคนยา เริ่มปลูกเมล็ดกาแฟในปี 1893 โดยนักบวชชาวฝรั่งเศสแนะนำสายพันธุ์เป็น Bourbon พื้นที่ปลูกอยู่ในตอนกลางของประเทศ การคัดเกรดเมล็ดมักจะส่งออกเกรด AA ซึ่งมีคุณภาพสูง เมล็ดโต ออกสู่ตลาดโลก สายพันธุ์ที่ปลูกกันมาก คือ SL-28 และ SL-34

  คุณลักษณะมีรสเบอร์รี่ หวาน และเข้มชัดด้าน มีรสเปรี้ยว

Ethiopia : เอธิโอเปีย

เป็นประเทศที่เมล็ดกาแฟได้รับความนิยมสูง มีผลผลิตในตลาดมาก ริเริ่มปลูกจริงจังในปี 1600 เพราะพื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์ จึงมีแหล่งปลูกกระจายไปทั่ว โดยสายพันธุ์ที่ปลูกกันมาก ได้แก่ Heirloom

  จะได้รส กลิ่น ส้ม มะกรูด และกลิ่นหอมของดอกไม้ หากเป็นวิธีตากธรรมชาติ จะได้รสผลไม้ป่า เปรี้ยว

Burundi : บุรุนดี

เมล็ดกาแฟถูกนำมาปลูกในปี 1920 โดยประเทศเจ้าอาณานิคมเบลเยี่ยม มักปลูกสายพันธุ์ Bourbon ซึ่งเหมาะกับการทำ Espresso

  ให้รสหวานผลไม้เบอร์รี่ หอมดอกไม้ป่า เปรี้ยวฉ่ำ

Malawi : มาลาวี

ริเริ่มปลูกกาแฟในปี 1800 โดยมิชชันนารีชาวสก็อต แต่มีจำนวนผลผลิตมีไม่มากนัก สายพันธุ์เป็น Geisha, Catimor, Caturra และ Mundo Novo

  จะเป็นแนวผลไม้เบอร์รี่ หวาน

Rwanda : รวันดา

ริเริ่มปลูกกาแฟในปี 1904 จากการเป็นอาณานิคมของเยอรมัน เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ ภูมิอากาศมีหุบเขามาก ปลูกได้ผลดี จึงปลูกได้กว้างขวาง แต่ด้วยเหตุมีสงคราม และความไม่สงบ จึงทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มาก สายพันธุ์ที่ปลูกคือ Bourbon, Mibirizi

  ได้กลิ่นแอปเปิ้ลแดง กลิ่นดอกไม้ กลิ่นองุ่น

Tanzania : แทนซาเนีย

เริ่มปลูกในปี 1600 โดยนำเข้าจากเอธิโอเปีย เป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมเยอรมัน การปลูกได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากนานาชาติ ทำให้ผลผลิตคุณภาพดี สามารถคัดเกรด AA โดยมีกว่า 4 แสนครัวเรือน ปลูกกาแฟเลี้ยงชีพ

  ได้กลิ่นรสเบอร์รี่ ดอกไม้ เปรี้ยวผลไม้



Zambia : แซมเบีย

แซมเบียได้เริ่มปลูกกาแฟในปี 1950 โดยบาทหลวงจากประเทศเคนย่า และด้วยความช่วยเหลือจากธนาคารโลก เพื่อแก้ปัญหาความยากจน จึงได้มีการส่งเสริมให้การปลูกเมล็ดกาแฟเจริญขึ้นเรื่อย ๆ สายพันธุ์ที่ปลูกคือ Bourbon และ Cartimor

  ได้รสดีเยี่ยม กลิ่นสะอาด ดอกไม้ และผลไม้แห้งเบอร์รี่

Origin Coffee Spotlight : ASIA

ประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก มีความอุดมสมบูรณ์ต่างจากแอฟริกา ทำให้ชาติเจ้าอาณานิคมนำกาแฟมาปลูกในหลาย ๆ แหล่งทั้ง อินเดีย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย จึงถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้เลี้ยงครอบครัวนับล้านครัวเรือน กลายเป็นประเทศที่ให้ผลิตผลสู่อุตสาหกรรมกาแฟอย่างมีนัยสำคัญ เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่ชื่นชอบกันทุกคน และดื่มได้ทุกเวลา

India : อินเดีย

อินเดียเป็นประเทศที่ผลิตชาเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในปี 1670 ได้มีนักบวชนำเมล็ดกาแฟมาปลูกตอนใต้ของอินเดีย เจริญงอกงามดีพอ ๆ กับต้นชา สามารถปลูกได้ทั้งสายพันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้า ด้วยปริมาณน้ำฝนจากมรสุม ทำให้ผลผลิตสูง แต่ความเปรี้ยวลดลง สายพันธุ์ที่ปลูก S795, Cauvery, S274 Robusta

  มีกลิ่นสมุนไพร กลิ่นครีม

Indonesia : อินโดนีเซีย

ประเทศอินโดนีเซียเคยเป็นเมืองขึ้นของดัชช์ ซึ่งได้นำกาแฟมาปลูกเพื่อป้อนตลาดยุโรปในปี 1696 ชาวดัชช์เก่งค้าขาย จึงทำให้กาแฟเติบโต ดื่มไปทั่ว ในปี 1876 เกิดโรคราสนิมระบาดหนัก ต้นกาแฟอาราบิก้าตายหมด จึงเริ่มมีปลูกกาแฟโรบัสต้าแทน และทำการปรับปรุงสายพันธุ์ อาราบิก้าให้ทนโรคราสนิม พืชที่ปลูกใกล้เนินเขาภูเขาไฟเก่า จึงมีแร่ธาตุมาก น้ำฝนเพียงพอ ผลผลิตจึงดีมากเป็นอันดับสามของโลก ช่วยให้เกษตรกรอินโดนีเซียมีรายได้เลี้ยงครอบครัวหลายแสนราย สายพันธุ์ที่ปลูก ได้แก่ S795 Typica, Ateng

  เป็นกลิ่นเปลือกไม้ สมุนไพร กรดน้อย เนื้อหนัก

Vietnam : เวียดนาม

ฝรั่งเศสที่เคยปกครองเวียดนามได้นำเอากาแฟมาส่งเสริมให้เกษตรกรเวียดนามปลูก ส่วนมากเป็นพันธุ์โรบัสต้า เพราะภูมิอากาศร้อน ความสูงไม่มาก ให้ผลผลิตสูง ป้อนตลาดการทำกาแฟผงในยุโรป ส่วนสายพันธุ์อาราบิก้าใช้ Catimor Bourbon

  รสจะอ่อน กลิ่นไม้ รสหวาน ไม่เด่นชัดมาก

Yemen : เยเมน

เยเมนเป็นเมืองท่าในย่านอาราเบีย ที่เรือพานิชย์จากเอเชียผ่านไปยุโรปจะต้องแวะจอดเติมเสบียง เป็นจุดกลางกระจายเมล็ดกาแฟไปทั่วโลก พื้นที่ปลูกส่วนที่ติดทะเลแดงมีความสมบูรณ์จึงปลูกได้ สายพันธุ์ Heirloom, Mahwaiti, Harazi

  กลิ่นออกไวน์ผลไม้ หอมผลไม้แห้ง

Papua New Guinea : ปาปัวนิวกินี

เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ใกล้อินโดนีเซีย ในปี 1926 มีผู้นำพันธุ์กาแฟไปปลูกในแถบที่ราบสูงได้ผลผลิตดี สายพันธุ์ที่ปลูกมี Bourbon Typica และ Arusha สามารถคัดเกรด AA ส่งตลาดได้

  รสครีมหวาน กลิ่นหอมหลายชนิด

Origin Coffee Spotlight : AMERICAS

ทวีปอเมริกาตอนกลาง มีความได้เปรียบคือ สองด้านติดมหาสมุทรให้ความชื้น น้ำฝนเพียงพอ เป็นแนวที่ราบสูง มีแนวสันเขาเหนือจรดใต้ ดินเป็นภูเขาไฟเก่า มีแร่ธาตุอาหารมาก ประชาชนให้ความสนใจในการพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถส่งออกกาแฟไปทั่วโลกได้ ผลผลิตกาแฟที่ทั่วทั้งโลกบริโภคมาจากอเมริกากลาง 60% แต่ละประเทศมีคุณลักษณะที่เหมือน และแตกต่างกันตามเทคนิคการปลูกดูแล

Brazil : บราซิล

บราซิลเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟได้สูงสุด เป็นสินค้าหลักของประเทศ มีผลต่อความเจริญมั่งคั่งของประชาชน มีลักษณะพื้นที่ปลูกที่ดี คือ เป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ ความลาดชันน้อย ทำให้สามารถปลูกเชิงพานิชย์ สามารถใช้เครื่องจักรช่วยในการเก็บเกี่ยว ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้นำเมล็ดพันธุ์เข้ามาในปี 1727 สามารถปลูกได้ดีทั้งอาราบิก้า และโรบัสต้า สายพันธุ์ที่ปลูกจะเป็น Mundo Novo, Yellow Bourbon, Caturra และ Catuai

  จะได้บอดี้ที่หนัก หวาน เปรี้ยวน้อย กลิ่นถั่ว ช็อกโกแลต

Columbia : โคลัมเบีย

โคลัมเบียเป็นประเทศที่ผลิตกาแฟได้คุณภาพดี เป็นที่ชื่มชอบของนักดื่มทั่วโลก เพราะให้ความสมดุลย์ของกลิ่นรสที่เพรียบพร้อม ด้วยมีประสบการณ์ และพัฒนาการปลูกมายาวนานจากปี 1723 สภาพพื้นดินเป็นที่ราบสูง เนินเขา ทำให้ต้นกาแฟได้รับความชื้นและแสงแดดอย่างเหมาะสม ความสุกของเมล็ดกาแฟพร้อมเพรียง เก็บเกี่ยวได้คุณภาพสูง ขายได้ราคางาม สายพันธุ์ที่ปลูกได้แก่ Caturra, Castilo, Typica

  กลิ่นถั่วและช็อกโกแลตชัดเจน มีความหวานผลไม้แห้ง หอมดอกไม้ป่า

Costa Rica : คอสตาริกา

ประเทศสเปนได้นำเมล็ดกาแฟมาปลูกในปี 1821 เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกร และด้วยภูมิอากาศเอื้อต่อการปลูกกาแฟ พื้นที่เป็นเนินหุบเขา ดินดี จึงสามารถปลูกกาแฟป้อนตลาดโลกเป็น ‘Micro-lot‘ ซึ่งถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษตามคุณลักษณะเด่น ๆ ที่แตกต่างกัน สายพันธุ์ Bourbon และ Caturra

  เป็นแนวหวาน กลิ่นสะอาด บอดี้เบา ๆ

Bolivia : โบลิเวีย

โบลิเวียเป็นประเทศเล็ก ๆ อยู่ติดกับบราซิล มีผลผลิตไม่มาก สายพันธุ์ที่ปลูกมักจะเป็น Typica และ Caturra อาจมี Heirloom ด้วย บางครั้งมักเจออุปสรรคอุณหภูมิเป็นจุดเยือกแข็ง ทำให้ต้นกาแฟตาย ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดโลกได้ไม่ค่อยจะดีนัก

  เป็นแนวผลไม้ กลิ่นสะอาด หวาน

El Salvador : เอลซัลวาดอร์

เริ่มปลูกกาแฟในปี 1850 และเคยเป็นประเทศส่งออกรายใหญ่อันดับ 4 พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นกำเนิดสายพันธุ์ดี ๆ คือ Pacas, Pacamara, Bourbon และ Heirloom ทำให้เกิดกาแฟคุณภาพป้อนตลาด Specialty

  ให้ความหวาน บาลานซ์ เปรี้ยวกลมกล่อม

Guatemala : กัวเตมาลา

ริเริ่มปลูกตั้งแต่ปี 1750 กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ 90% เข้าสู่ประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการพัฒนาการปลูกกาแฟ สายพันธุ์ปลูกคือ Bourbon, Caturra และ Catuai

  เป็นแนวหวานผลไม้ ช็อกโกแลต หอมดอกไม้

Honduras : ฮอนดูรัส

เป็นประเทศที่ริเริ่มปลูกในปี 1804 เจริญเติบโตเรื่อยมา สามารถพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นมาเป็นผู้นำได้ ด้วยการที่มีภูมิประเทศเอื้อต่อการปลูกกาแฟมาก มีแนวหุบเขา ความชื้นเพียงพอ พบว่ามีเกษตรกรหนึ่งแสนครอบครัวที่ช่วยกันปลูกกาแฟคุณภาพนี้ สายพันธุ์ที่ปลูกคือ Bourbon, Caturra และ Catuai

  รสผลไม้ เปรี้ยว หวาน

Jamaica : จาไมกา

เริ่มมีการปลูกตั้งแต่ปี 1728 เป็นประเทศที่มีกาแฟ Blue Mountains อันมีชื่อเสียงระดับโลก มีราคาสูง ประเทศญี่ปุ่นชอบมาก เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนามาจาก Typica

  มีรสนุ่ม เปรี้ยวเล็กน้อย กลิ่นผลไม้

Mexico : เม็กซิโก

พื้นที่ตอนใต้เป็นแหล่งปลูกขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตมาก เริ่มปลูกตั้งแต่ปี 1785 โดยนำเข้าจาก Cuba สายพันธุ์ปลูก คือ Bourbon, Typica, Caturra, Maragogype

  ออกแนวคาราเมล หวาน ช็อกโกแลต

Nicaragua : นิการากัว

เริ่มปลูกกาแฟในปี 1790 โดยปลูกแซมในสวนกว้าง ให้ผลผลิตดี สายพันธุ์ที่นิยมปลูก Bourbon, Caturra

  เป็นแนวเปรี้ยวผลไม้ หอมดอกไม้ กลิ่นสะอาด

Panama : ปานามา

มีพื้นที่ปลูกได้ไม่มาก แต่มีความโดดเด่นของสายพันธุ์ Geisha ที่นักชิมทั่วโลกยอมรับว่าคุณภาพดีเยี่ยม เป็นที่ต้องการของตลาดสูง

  เป็นแนวผลไม้ตระกูลส้ม บอดี้เบา หอมคอมเพล็กซ์

Peru : เปรู

เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีประวัติการปลูกตั้งแต่ปี 1740 อยู่ในเขตอุดมสมบูรณ์ มีอารายธรรมโบราณ มีที่ราบสูงมาก ทำให้กาแฟอาราบิก้ามีคุณภาพดี กาแฟสุกช้า สารกาแฟมีความสมบูรณ์ ปลูกได้หลาย ๆ พันธุ์ เช่น Bourbon, Typica, Mondo Novo, Catuai, Catimor

  ให้รสนุ่ม คอมเพล็กซ์ หวาน เปรี้ยวเล็กน้อย

Coffee the world's most popular drink

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จะทำให้เราได้ทราบถึงความนิยมดื่มกาแฟ ที่กระจายไปทั่วโลก เกษตรกรมีพัฒนาการปลูก จึงเกิดสายพันธุ์ดี ๆ แตกต่างกันไป ประชากรแทบทุกมุมของโลกต้องดื่มกาแฟทุกเช้า และตลอดวัน เพื่อความสดชื่น ไม่มีเครื่องดื่มใด ๆ ที่จะมีขนาดตลาดยิ่งใหญ่กว่ากาแฟ

จากงานวิจัยที่มีมาไม่ขาดสาย มีข้อมูลสนับสนุนว่า การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้สุขภาพร่างกายดี โดยเฉพาะป้องกันสมองและหัวใจ เพราะคาเฟอีนสามารถกระตุ้นอย่างอ่อน ๆ ให้อวัยวะทำงานเป็นปกติ กาแฟเป็นเมล็ดพืชที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ส่วนที่สำคัญมีประโยชน์สูง ก็คือ เมล็ด มีสายพันธุกรรมหลากหลาย อาราบิก้ามีโครโมโซมมากกว่าโรบัสต้าถึงสองเท่า จึงเป็นเหตุผลว่า อาราบิก้าให้กลิ่นรสที่ดีกว่าโรบัสต้า เราจึงนิยมดื่มกาแฟอาราบิก้ามากกว่าโรบัสต้า